วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

21.12.2012 วันโลกาวินาศ ?

มาถึงตอนนี้ ผู้คนทั้งหลายทั่วโลก ต่างได้รับรู้ไม่มากก็น้อยถึง เรื่องราววาระสุดท้าย
ของโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ ที่จะเกิดขึ้นภายในปลายปี ค.ศ. 2012 นี้
ไม่ว่าจะเป็นการตีความบนปฎิทินของชาวมายันโบราณกาล หรือคำพยากรณ์ของผู้หยั่ง
รู้อนาคตที่มีชื่อเสียงระดับโลก นอสตราดามุส หรือ โดยการคำนวณของนักดาราศาตร์
การปรากฎตัวทุก ๆ 3,600 ปี ของดวงดาวที่มีชื่อเรียกว่า นิบิรู สัญนิษฐานกันว่า
เป็นดาวเคราะห์ที่ 10 ของระบบสุริยะ จะโคจรเข้ามาเฉียดใกล้โลกของเรามาก
จนสามารถสร้างความปั่นป่วนทางภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรณีต่าง ๆ เหลือคณานับ
ซึ่งปรากฎการณ์ทั้งหมดนี้ต่างจะมาลงเอยกันในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555
หรือถ้าจะเขียนวันที่ตามแบบฝรั่ง คือ วันที่ 21.12.2012






ข้อมูลทั้งหลายแหล่ที่ผู้คนรับรู้นั้น ส่วนมากได้มาจากภาพยนตร์ฮอลลี่วู๊ด เรื่อง 2012
วันโลกาวินาศ ที่เข้าฉายไปเมื่อปีที่แล้ว


ส่วนใครจะเชื่อว่า เหตูการณ์ที่เลวร้ายอย่างว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นหรือจะเป็นจริงได้เพียงไร
ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน

แต่ดูเหมือนว่า กระแสความสนใจของผู้คนทั่วโลกในเรื่องนี้เริ่มลดน้อยลงมาก ทั้ง ๆ ที่
เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งปีเท่านั้น ดังนั้น พอจะสรุปได้ว่า ผู้คนทั่วโลกส่วนมากไม่
เชื่อว่า วันสุดท้ายของโลกจะเกิดขึ้นในวันดังกล่าว อีกทั้งมนุษย์ทุกผู้ทุกนามต่างก็
ล้วนมีปัญหาส่วนตัวของตนที่ต้องขบคิดกันทุกวี่ทุกวันอยู่จนไม่มีเวลาจะมาคิดเรื่องไกลตัวอื่น ๆ
หรือต่างคนก็อาจคิดว่า ถ้ามันจะบังเอิญเกิดขึ้นจริง ๆ ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้
คงต้องปล่อยไปตามยถากรรม จะดิ้นรนเอาตัวรอดหรือหวาดกลัวไปก็เปล่าประโยชน์

อันที่จริงแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา กระแสความเชื่อในเรื่อง วันสุดท้ายของโลก
ได้มีมาเป็นระยะ ๆ จนเกือบจะแทบทุก ๆ ปี แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทำให้ความเชื่อถือของผู้คนในเรื่องนี้ ได้ถดถอยลดลงไปเรื่อย ๆ
จนกลายเป็นเรื่องไร้สาระที่ใครจะกล่าวถึงไปเลย

โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว ในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 น่าจะยังไม่มีเหตุการณ์ถึง
ขั้นโลกต้องดับสลายเกิดขึ้น มันคงจะเป็นอีกวันหนึ่งที่ผู้คนทั่วไปดำเนินชีวิตได้ตามปรกติ
ดั่งเช่นวันอื่น ๆ ที่ผ่านมา ข้าวของสินค้าอาหารยังคงมีราคาสูงขึ้นตามค่าครองชีพ
ค่าเช่าบ้านยังต้องจ่าย ค่าผ่อนบ้าน หรือผ่อนรถยังต้องส่งให้ตรงเวลา รถยังติดบนถนน
อีกทั้งพวกนักการเมืองยังสามารถหาเสียงหลอกประชาชนส่วนมากของประเทศนี้
ได้เหมือนเดิม

โลกของเราใบนี้อาจต้องมีวันจบสิ้นลงในที่สุด แต่คงยังจะไม่ใช่ในปี 2012, 2013
หรือในช่วงระยะเวลาสิบปีหรือยี่สิบปีต่อจากนี้

แต่ที่แน่ ๆ ณ อนาคตอันใกล้ การดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์ชาติจะต้อง
ยากลำบากขึ้นอีกมาก อันเป็นผลมาจากจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กับ
ปัญหาสภาวะโลกร้อนที่รุนแรงเกินจะแก้ไข จะเกิดการแก่งแย่งทรัพยากรทางธรรมชาติ
กันมากขึ้น  จนนำไปสู่สงครามระหว่างประเทศ ขยายตัวเป็นระดับภุมิภาค หรือ
ขยายวงกว้างมากขึ้นกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สาม ก็เป็นได้


ในสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นเช่นนี้ ผู้คนในสังคมก็จะพากันเห็นแก่ตัวมากขึ้น
คิดแต่จะเอาตัวรอด สังคมอาจต้องล่มสลาย จนทำให้โลกใบนี้จะไม่น่าอยู่น่าอาศัยอีกต่อไป
โดยไม่ต้องรอให้พวกมนุษย์ทำลายมันด้วยสงครามโลกครั้งที่สาม จนไม่เหลืออะไรให้
ชนรุ่นหลังได้อาศัยดำรงชีวิตสืบต่อไปอีก