สินค้าตัวนี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ Turtle Wax ผู้ผลิตสินค้า สำหรับดูแลรักษาสีรถยนต์ที่มีชื่อมานานของสหรัฐอเมริกา |
ท่านเจ้าของรถทุกท่านคงได้เคยล้างรถยนต์ของตนเองมาแล้ว
ถ้าหากบ้านที่พักของท่านมีบริเวณกว้างขวางพอ แต่สำหรับท่าน
ที่ไม่สะดวกจะล้างเอง ก็มักขับรถไปให้ศูนย์บริการล้างรถยนต์
ที่มีอยู่ตามห้างหรือตั้งอยู่ข้างถนน ซึ่งก็จะเสียค่าใช้จ่ายในการล้างรถ
เป็นร้อยหรือหลายร้อยบาททีเดียว ณ ปัจจุบัน
ส่วนมาก ทุก ๆ ท่านคงต้องได้เคยรับรู้ข้อมูลมาว่า การล้างรถที่ถูกวิธีนั้น ควรใช้สายพ่นน้ำฉีดใส่รถเพื่อให้ขี้ดินและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนตัวรถหลุดออก หรืออีกวิธีหนึ่ง ก็ใช้ฟองน้ำหรือผ้าเช็ดชุบน้ำให้เปียกมาก ๆ ลูบเอาฝุ่นต่าง ๆ ที่ติดออก สรุปทั้ง 2 วิธี ก็คือ ต้องใช้น้ำล้างรถให้เยอะ ๆ เข้าไว้ การใช้ผ้าที่แห้งหรือเปียกไม่พอเช็ดลงบนรถที่มีฝุ่นเกาะหรือคราบสกปรกติดแน่นอยู่ เจ้าเม็ดละอองฝุ่นเล็ก ๆ เหล่านั้น
จะขูดผิวหน้าสีรถตอนเช็ดถู เกิดเป็นรอยขีดข่วนเล็ก ๆ เต็มไปหมดและสีจะแลดูด้านไม่เงา อย่างที่เรียกกันว่า ขึ้นรอยขนแมว ในระยะยาว
ทีนี้ เจ้าผลิตภัณฑ์ของ Turtle Wax ที่กำลังจะทดลองใช้ดูนี้
ผู้ผลิตเค้ากลับปฎิวัตินำเสนอความคิดในการล้างรถที่ตรงกันข้ามกับ
ข้อมูลที่เคยเข้าใจกันมาแต่ดั้งเดิม โดยชื่อสินค้าก็บอกในตัวแล้วว่า
Rinse Free Wash & Wax คือ ล้างรถโดยไม่ต้องใช้น้ำมาก
และก็เคลือบเงาในตัวแบบ All-in-one ซะด้วย แปลว่า
ได้งานสองอย่างในหนึ่งเดียว ฟังดูดีจังแฮะ ผู้เขียนยังสงสัย
ว่า มันจะทำได้อย่างที่โฆษณาหรือเปล่า
เรามาทดลองทำกันดูซิว่า ผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร
ตามคู่มือบอกว่า น้ำยา 1 ฝา กับน้ำเพียงแค่ 4 ลิตร
และผ้าเช็ดรถแบบ microfiber 2 ผืน ผืนหนึ่งใช้ชุบน้ำเช็ดรถ
ส่วนอีกผืนใช้เช็ดให้แห้ง สำหรับเจ้าผ้าเช็ดรถไมโครไฟเบอร์
นี้ ของแท้มียี่ห้อก็มีราคาหลายอยู่ แต่ถ้าเป็นของเทียมที่มีขายตามตลาดนัด ทุกอย่าง 20 บาท ก็เอามาใช้งานได้ไม่แพ้กันมากนัก
ตัวน้ำยาเป็นสีฟ้า ใส่ในถังน้ำบังเอิญเป็นสีฟ้า ก็เลยมองเห็นไม่ชัดครับ น้ำยาออกกลิ่นหอมธรรมชาติ กลิ่นคล้ายน้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ |
เริ่มงานจากสิ่งที่เราท่านทราบดี ก็คือ เอาผ้าเช็ดชุบน้ำในถังที่ผสมน้ำยาเตรียมไว้ เอาผ้าเช็ดรถเป็นส่วน ๆ จากบนลงล่าง เมื่อเสร็จพื้นที่ส่วนหนึ่งก็นำผ้ามาซักในถัง บิดผ้าพอชุ่ม ๆ อย่าให้แห้งนัก โดยให้เริ่มเช็ดจากหลังคา กระจกรถ ไล่ลงมาที่กระโปรงหน้าและหลัง
จากนั้นก็เป็นข้างตัวรถทั้งสองด้าน ซึ่งจะมีความสกปรกมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนมาจบลงที่ล้อรถทั้ง 4 ผู้เขียนได้สังเกตุว่า ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ ถูกเช็ดออกจากพื้นผิวตัวรถได้อย่างง่ายดาย โดยแทบไม่ต้องออกแรงเช็ดถูมาก ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดรอยขนแมวน้อยมากจนเกือบไม่มี แต่แน่นอน ถ้ามีจุดตรงไหนที่เป็นมูลนกแห้งแข็งหรือเศษยางมะตอยติดอยู่ ก็คงต้องออกแรงมากหน่อย มันถึงจะหลุดออกไปได้ รวมเวลาเช็ดล้างทั้งคันไม่น่าเกิน 15 นาที โดยที่ยังไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยครับ
เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้แล้ว ก็นำผ้าเช็ดแห้งที่เตรียมไว้อีกผืน กึ่งลูบกึ่งเช็ดเบา ๆ เพื่อให้รอยคราบน้ำหมดไป รถก็จะแลดูเงางามเหมือนกับเอาไปล้างตามศูนย์บริการเลย ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไปไม่ถึง 5 นาที และก็ไม่ต้องใช้แรงมากเช่นกัน
เหลียวมามองดูที่น้ำในถัง พบว่า สิ่งสกปรกต่าง ๆ ลอยอยู่ในน้ำจากการซักผ้าเช็ดรถในแต่ละครั้ง จนน้ำล้างรถดำเมี่ยม
เมื่อผู้เขียนลองเอามือลูบไล้ที่ผิวตัวรถ ได้รับความรู้สึกลื่นเหมือนผ่านการเคลือบแว๊กซ์ อย่างที่โฆษณาไว้ แต่อย่างไรก็ดี มันก็ไม่ได้ดีถึงระดับชักเงาว๊าบแบบผ่านการขัดเคลือบสีรถด้วย Hard Wax ที่ให้บริการตามศูนย์เคลือบสีรถยนต์เลยนะครับ
เป็นที่สังเกตุว่า การล้างรถประจำด้วยผลิตภัณฑ์นี้ ผงฝุ่นละอองดินต่าง ๆ จะถูกเช็ดออกง่ายขึ้นในการล้างครั้งต่อ ๆไป สีรถเองก็จะดูเป็นมันเงางามขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
หากล้างรถด้วยแชมพูล้างรถธรรมดาที่มีขายอยู่ทั่วไป สีรถกลับจะด้านและซีดลงทุกครั้งที่ล้าง จำเป็นต้องทำการลงแว๊กซ์ขัดให้ขึ้นเงา ซึ่งจะเป็นงานที่เหนื่อยใช้แรงมาก (ถ้าเราทำเอง) และมีค่าใช้จ่ายสูง (ถ้าให้ร้านทำให้) สีรถจึงจะกลับมาดูใหม่เป็นเงาดั่งเดิม
ดังนั้น พอจะสรุปได้ว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้งานได้สมราคาคุย คือใช้น้ำน้อยนิดเพียงครึ่งถัง ก็สามารถทำความสะอาดรถทั้งคันได้ พร้อมกับทำให้สีรถเป็นมันเงางามเหมือนเคลือบแว๊กซ์ (แบบบาง ๆ) อนึ่งผู้ใช้เองก็สบายใจว่า ตัวเองได้มีส่วนรักษาสภาวะแวดล้อมของโลกให้ดีขึ้น เพราะตัวน้ำยาทำจากสาร Polymers ที่ย่อยสลายตามธรรมชาติได้ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง และเนื่องจากใช้น้ำน้อยนิดในการล้างรถ ก็เป็นการช่วยประหยัดทรัพยากรโลกอีกทางหนึ่งด้วย
ทีนี้ ผู้เขียนลองมาคิดเล่น ๆ ดูว่า สินค้าตัวนี้น่าจะเหมาะกับผู้ใช้แบบใดบ้าง เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้า ราคามันคงต้องสูงกว่าพวกแชมพูล้างรถที่มีขายกันอยู่ทั่วไป ท่านที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้านซึ่งมีบริเวณพื้นที่และสามารถหาน้ำเยอะ ๆ มาล้างรถง่ายๆ อาจไม่สนใจเท่าไร
แต่สำหรับท่านที่ต้องพำนักอาศัยในสถานที่ไม่สะดวกที่จะ
หาน้ำปริมาณมาก ๆ มาล้างรถ เช่น หอพัก คอนโด สินค้าตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ได้อย่างดีทีเดียว คงจะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำคัญ
อีกกลุ่มลูกค้าหนึ่ง น่าจะเป็นผู้ที่ต้องการจะดูแลรถเอง แต่ก็ไม่มีเวลา
มาก ประสงค์ให้งานล้างรถสามารถทำให้จบได้ในงานเดียว คือ
ทั้งล้าง ทั้งเคลือบเงาได้ในขั้นตอนเดียว สินค้าตัวนี้ก็น่าจะมีโอกาสเข้าถึงผู้คนเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันนี้วางขายตามชั้นของห้างต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย ก็คงต้องเหนื่อยหน่อยสำหรับผู้ทำการตลาดสินค้า
อ้อ! ผู้เขียนเกือบลืมบอกไป ก่อนจะกลับคุณพี่ชายได้เพิ่มข้อมูลสำหรับน้ำยาเช็ดล้างรถตัวนี้ว่า น้ำที่ล้างรถเสร็จ (ที่ผู้เขียนบอกว่า สกปรกมากจนดำมิดหมีนั้น) จงอย่าทิ้งไป ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยปล่อยน้ำให้ตกตะกอนแล้วนำมากรองเอาสิ่งสกปรกออกด้วยผ้าบางหรือกระดาษกรอง แยกเอาน้ำส่วนที่ใสเป็นสีฟ้า มาใส่กระบอกฉีดทำเป็นสเปรย์ฉีดน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ได้อีก จะใช้ฉีดเช็ดทำความสะอาดกระจกรถ กระจกหน้าต่าง เตาแก๊ส ห้องครัวที่เปื้อนน้ำมัน ฯลฯ ซึ่่งผู้เขียนก็ได้ลองทำดู โดยปล่อยให้สิ่งสกปรกตกตะกอนในถังน้ำค้างคืน รุ่งเช้าก็พบว่า เป็นจริงดั่งว่า น้ำที่ล้างรถได้ทำปฎิกริยาแยกตัวเป็นสองชั้น โดยน้ำใสสะอาดลอยอยู่ด้านบน ส่วนบรรดาสิ่งสกปรกต่าง ๆ จากการล้างรถเมื่อวานจับรวมตัวกันจมอยู่ก้นถัง
คุณสมบัติของน้ำยาล้างรถของ Turtle Wax ข้อนี้ น่าจะพิเศษเหนือกว่าสินค้าคู่แข่งใด ๆ เป็นแน่ เพราะผู้เขียนเองก็ไม่เคยได้ยินว่า มีผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันยี่ห้ออื่น เอาน้ำล้างรถที่ใช้แล้วมาทำได้เช่นนี้
อีกครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนต้องขอบคุณพี่ชายที่แนะนำผลิตภัณฑ์ดี ๆ มาให้รู้จัก หลังจากที่ได้แนะนำยางรถยนต์ยี่ห้อ NIKA รุ่น Avatar มาให้ใช้เมื่อปีที่่แล้ว
(บทความโฆษณา)
หากล้างรถด้วยแชมพูล้างรถธรรมดาที่มีขายอยู่ทั่วไป สีรถกลับจะด้านและซีดลงทุกครั้งที่ล้าง จำเป็นต้องทำการลงแว๊กซ์ขัดให้ขึ้นเงา ซึ่งจะเป็นงานที่เหนื่อยใช้แรงมาก (ถ้าเราทำเอง) และมีค่าใช้จ่ายสูง (ถ้าให้ร้านทำให้) สีรถจึงจะกลับมาดูใหม่เป็นเงาดั่งเดิม
ดังนั้น พอจะสรุปได้ว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้งานได้สมราคาคุย คือใช้น้ำน้อยนิดเพียงครึ่งถัง ก็สามารถทำความสะอาดรถทั้งคันได้ พร้อมกับทำให้สีรถเป็นมันเงางามเหมือนเคลือบแว๊กซ์ (แบบบาง ๆ) อนึ่งผู้ใช้เองก็สบายใจว่า ตัวเองได้มีส่วนรักษาสภาวะแวดล้อมของโลกให้ดีขึ้น เพราะตัวน้ำยาทำจากสาร Polymers ที่ย่อยสลายตามธรรมชาติได้ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง และเนื่องจากใช้น้ำน้อยนิดในการล้างรถ ก็เป็นการช่วยประหยัดทรัพยากรโลกอีกทางหนึ่งด้วย
ทีนี้ ผู้เขียนลองมาคิดเล่น ๆ ดูว่า สินค้าตัวนี้น่าจะเหมาะกับผู้ใช้แบบใดบ้าง เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้า ราคามันคงต้องสูงกว่าพวกแชมพูล้างรถที่มีขายกันอยู่ทั่วไป ท่านที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้านซึ่งมีบริเวณพื้นที่และสามารถหาน้ำเยอะ ๆ มาล้างรถง่ายๆ อาจไม่สนใจเท่าไร
แต่สำหรับท่านที่ต้องพำนักอาศัยในสถานที่ไม่สะดวกที่จะ
หาน้ำปริมาณมาก ๆ มาล้างรถ เช่น หอพัก คอนโด สินค้าตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ได้อย่างดีทีเดียว คงจะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำคัญ
อีกกลุ่มลูกค้าหนึ่ง น่าจะเป็นผู้ที่ต้องการจะดูแลรถเอง แต่ก็ไม่มีเวลา
มาก ประสงค์ให้งานล้างรถสามารถทำให้จบได้ในงานเดียว คือ
ทั้งล้าง ทั้งเคลือบเงาได้ในขั้นตอนเดียว สินค้าตัวนี้ก็น่าจะมีโอกาสเข้าถึงผู้คนเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันนี้วางขายตามชั้นของห้างต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย ก็คงต้องเหนื่อยหน่อยสำหรับผู้ทำการตลาดสินค้า
อ้อ! ผู้เขียนเกือบลืมบอกไป ก่อนจะกลับคุณพี่ชายได้เพิ่มข้อมูลสำหรับน้ำยาเช็ดล้างรถตัวนี้ว่า น้ำที่ล้างรถเสร็จ (ที่ผู้เขียนบอกว่า สกปรกมากจนดำมิดหมีนั้น) จงอย่าทิ้งไป ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยปล่อยน้ำให้ตกตะกอนแล้วนำมากรองเอาสิ่งสกปรกออกด้วยผ้าบางหรือกระดาษกรอง แยกเอาน้ำส่วนที่ใสเป็นสีฟ้า มาใส่กระบอกฉีดทำเป็นสเปรย์ฉีดน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ได้อีก จะใช้ฉีดเช็ดทำความสะอาดกระจกรถ กระจกหน้าต่าง เตาแก๊ส ห้องครัวที่เปื้อนน้ำมัน ฯลฯ ซึ่่งผู้เขียนก็ได้ลองทำดู โดยปล่อยให้สิ่งสกปรกตกตะกอนในถังน้ำค้างคืน รุ่งเช้าก็พบว่า เป็นจริงดั่งว่า น้ำที่ล้างรถได้ทำปฎิกริยาแยกตัวเป็นสองชั้น โดยน้ำใสสะอาดลอยอยู่ด้านบน ส่วนบรรดาสิ่งสกปรกต่าง ๆ จากการล้างรถเมื่อวานจับรวมตัวกันจมอยู่ก้นถัง
กระบอกฉีดใส่น้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ที่ได้จากการล้างรถหนึ่งครั้ง |
อีกครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนต้องขอบคุณพี่ชายที่แนะนำผลิตภัณฑ์ดี ๆ มาให้รู้จัก หลังจากที่ได้แนะนำยางรถยนต์ยี่ห้อ NIKA รุ่น Avatar มาให้ใช้เมื่อปีที่่แล้ว
(บทความโฆษณา)