มาถึงวันนี้เป็นวันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม และวันสิ้นโลก หรือวันโลกาวินาศ 21 ธันวาคม
ค.ศ. 2012 ก็ได้ผ่านพ้นเกินไป 24 ช.ม. แล้ว โดยไม่มีเหตุภัยวิบัติใดๆ เกิดขึ้นอย่างที่คาดการณ์
หรือหวาดกลัวกันเลย
หลาย ๆ คนที่เชื่อในเรื่องนี้ คงได้โล่งอกโล่งใจว่า ชิวิตทั้งหลายได้อยู่รอดปลอดภัยแล้ว
แต่บางคนที่เป็นลูกหนี้ธนาคารหรือบัตรเครดิต อาจจะรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ที่ยังไม่พ้นสภาวะการเป็น
หนี้อย่างง่าย ๆ ถ้าหากสมมุติ เกิดอหันตภัยวิบัติรุนแรงถึงขั้นระบบการเงินการธนาคาร
ต้องล่มสลาย สถาบันการเงินทุกแห่งไม่สามารถดำเนินธุรการทางการเงินได้อีกต่อไป
ทั้งประวัติเจ้าหนี้ และลูกหนี้ต้องสูญหายไปหมด ถือเป็นการได้โชคสองชั้น คือ
รอดตายจากภัยวิบัติและได้ปลดหนี้ไปด้วย
อีกครั้งหนึ่งที่พิสูจน์ว่า มนุษย์เราส่วนมากช่างอ่อนไหวในความคิดความเชื่อเสียเหลือเกิน
ผู้คนพร้อมที่จะเชื่อหรือติดยึดกระแสความคิดในเรื่องหนึ่งเรื่องใดได้อย่างง่าย ๆ
โดยไมหยุดคิดพิจารณาไตร่ตรองทบทวนถึงความเป็นไปได้ของมันก่อน
กระแสความเชื่อในเรื่องวันสิ้นโลก 21.12.2012 เป็นเรื่องหนึ่งที่แสดงเป็นตัวอย่าง
ให้เราได้เห็นได้ชัด
ความคิดเห็นทางการเมืองในการชื่นชมยกย่องสรรเสริญนักการเมือง หรือพรรคการเมืองใด
ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งสำหรับประชาชนของประเทศนี้ว่า ผู้คนให้การสนับสนุนพรรคการเมือง
บางพรรค อย่างไม่เปิดหูเปิดตา ไม่เคยพิจารณาดูว่า สังคมกำลังสนับสนุนนักการเมือง
ที่เป็นปัญหา ที่ประพฤติผิดศึลธรรม และที่กำลังปล้นชาติปล้นแผ่นดินอยู่หรือไม่ เฮ้อ...
แน่นอน โลกใบนี้ยังคงดำรงอยู่ต่อไปอย่างที่เคยเป็น รอวันแตกดับกันอีกหน
จะทุกข์จะสุขอย่างไร เราต่างได้เกิดมาแล้วบนโลกใบนี้ ก็ต้องดำเนินชิวิตต่อไป
เพราะฉะนั้น จงหมั่นสร้างแต่กรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว ตลอดเวลาที่มียังชิวิตอยู่
ตามที่พระท่านสอนไว้ เป็นการไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต
ถ้าเราจะต้องจากโลกนี้ ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ หรือวันต่อไป ๆ เราก็ไม่รู้สึกเสียดาย
อันใด เพราะเราทั้งหลายที่เป็นคนดี สร้างแต่กรรมดี ล้วนพร้อมอยู่ทุกขณะจิตที่
จะจากโลกนี้ไปอย่างสงบ
สาธุ....
ครับ.. บทความนี้ก็จบเอวัง แบบธรรมะธโม นะเช่นนี้
วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555
21.12.2012 วันโลกาวินาศ (บทติดตาม)
ในที่สุด เจ้าวันโลกดับ 21 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2012 ที่ใคร ๆ บางคนเฝ้ารอและทุกคน
กล่าวขานถึงมาหลายทศวรรษ ก็ได้คืบคลานเข้ามาจนเหลือไม่ถึงอาทิตย์นับจากวันนี้
กระแสความแตกตื่นในเรื่องนี้ที่เมืองไทย ดูจะมีไม่มากนัก
ข่าวทางการเมือง ยังจะสร้างความสนใจให้ผู้คนได้มากกว่าหลายเท่า
แม้ว่าหนังสือพิมพ์บางค่ายจะมีบทความสั้นๆ หรือทีวีเองบางช่องมีสคู๊ปข่าว
เกี่ยวกับความเป็นมาเป็นไปของกระแสความเชื่อในเรื่อง วันโลกดับ 21.12.2012
แต่ก็ไม่ทำให้ผู้คนส่วนมากในประเทศนี้ เพิ่มความสนใจขึ้นอีกสักเท่าใด
เพราะต้องมัวสนใจกับสิ่งใกล้ตัวมากกว่า เช่น ค่าครองชีพที่สูงขึ้น สินค้า
อาหาร อุปโภคบริโภคทุกอย่าง ก็ตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ขึ้นราคากันท่าเดียว
สำหรับในโลกไซเบอร์เอง ทั่วโลกกลับมีกระแสรับรู้เฝ้าระวังอยู่จำนวนมากเหมือนกัน
ดูจากหน้าเวปไซด์และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
เราน่าจะแบ่งกลุ่มผู้คนทั่วโลก ที่มีความเห็นความคิดในเรื่องนี้อยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
กลุ่มแรก มีจำนวนมากที่สุด อาจจะมากเกิน 95% คือ ไม่เชื่อสักนิดเลยว่า
จะมีภัยพิบัติร้าย ๆ ต่าง ๆ อย่างที่พูดกันเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นสนามแม่เหล็กโลก
พลิกสลับขั้วกลับด้านถึงขั้นน้ำทะเลที่มีอยู่ไหลท่วมพื้นแผ่นดินของโลกส่วนมาก
หรือจะเกิดแผ่นดินไหวระดับ 8-9 ริกเตอร์ จากภูเขาไฟระเบิด
ล้วนที่ก่อให้เกิดความหายนะทุกรูปแบบ ในระดับทำลายล้างเผ่าพันธ์มนุษย์
ให้เหลือประชากรโลกเพียงเศษหนึ่งในสามส่วนของที่มีอยู่ในปัจจุบัน
กลุ่มที่สอง เป็นประเภท "ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่" ขอแทงกั๊กเอาไว้ก่อนว่า
อาจเป็นไปได้ที่โอกาสของภัยพิบัติเลวร้ายเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ตามแบบที่ผู้กำกับหนังฮอลลี่วู๊ด
สร้างให้พวกเราดูในภาพยนตร์บันเทิง แต่ผู้คนกลุมนี้ยังไม่ได้ทำอะไร นอกจากรอคอยการมา
ถึงของเหตุการณ์ในวันที่ 21 ธันวาคม หรือไม่ก็วันเดือนปี ต่อ ๆ ไป ถ้ามันบังเอิญจะซวย
เกิดขึ้นมาจริง ๆ ถึงเวลานั้นค่อยมาว่ากันว่า จะหาทางหนีเอาตัวรอดแบบตัวใครตัวมันกันอย่างไร
กลุ่มสุดท้าย มีจำนวนน้อยถึงน้อยที่สุด น้อยจนไม่อาจระบุเป็นเปอร์เซนต์ได้
คือ มีความเชื่อเต็มที่พันเปอร์เซนต์ พวกเค้าเหล่านี้จึงได้มีการเตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์
อันสุดเลวร้ายเอาไว้ล่วงหน้า อย่างเช่น ที่ประเทศจีน มีช่างทำเฟอร์นิเจอร์ ได้สร้างลูกทรงกลม
ทำจากแผ่นเหล็ก ใช้เป็นเรือพาหนะส่วนตัวในทะเลพร้อมอาหารและน้ำดื่มไว้สำหรับตัวเอง
กับครอบครัว และใช้อยู่พักอาศัยตอนน้ำท่วมโลก พอสร้างของตัวเองเสร็จ เหลือเวลาก็เลยสร้าง
เพิ่มขึ้นมาอีกหลายลูก เอาไว้ขายให้เพื่อนบ้านข้างเคียงในตำบล หรือคนอื่นๆ
ที่เชื่อในเรื่องนี้เหมือนกันโดยประกาศขายทางอินเตอร์เน็ท นับเป็นธุรกิจหารายได้เสริม
ที่ไม่เลวนัก ระหว่างนั่งรอเหตุการณ์วันจริงจะมาถึง แต่ถ้ามันเกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ้นจริง ๆ
เค้าคงจะลืมนึกไปว่า เงินทองเองก็ไม่มีค่าใดๆ อีกต่อไป
เพราะมันก็จะถึงวันนั้นอยู่แล้ว ขอให้พวกเราคอยมาดูกันว่า เช้าของวันที่ 21 ธันวาคม
จะออกมาเป็นอย่างไร
ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกที่เชื่อก็จะต้องสรรหาเหตุผลมาอธิบายว่า
ทำไมมันถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือจำเป็นต้องเลื่อนวันโลกาวินาศออกไป
ให้ลุ้นอีกเรื่อย ๆ ในปีหน้า 2013 หรือ 2014 หรือไม่
กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง วันโลกแตก หรือวันหน้าแหก
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000151452
รอลุ้นระทึก วัน 21.12.2012
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000152037
The Official Website for 21.12.2012
http://www.december212012.com/
สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อเรื่อง วันโลกแตก
http://www.endoftheworld2012.net/
กล่าวขานถึงมาหลายทศวรรษ ก็ได้คืบคลานเข้ามาจนเหลือไม่ถึงอาทิตย์นับจากวันนี้
กระแสความแตกตื่นในเรื่องนี้ที่เมืองไทย ดูจะมีไม่มากนัก
ข่าวทางการเมือง ยังจะสร้างความสนใจให้ผู้คนได้มากกว่าหลายเท่า
แม้ว่าหนังสือพิมพ์บางค่ายจะมีบทความสั้นๆ หรือทีวีเองบางช่องมีสคู๊ปข่าว
เกี่ยวกับความเป็นมาเป็นไปของกระแสความเชื่อในเรื่อง วันโลกดับ 21.12.2012
แต่ก็ไม่ทำให้ผู้คนส่วนมากในประเทศนี้ เพิ่มความสนใจขึ้นอีกสักเท่าใด
เพราะต้องมัวสนใจกับสิ่งใกล้ตัวมากกว่า เช่น ค่าครองชีพที่สูงขึ้น สินค้า
อาหาร อุปโภคบริโภคทุกอย่าง ก็ตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ขึ้นราคากันท่าเดียว
สำหรับในโลกไซเบอร์เอง ทั่วโลกกลับมีกระแสรับรู้เฝ้าระวังอยู่จำนวนมากเหมือนกัน
ดูจากหน้าเวปไซด์และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
เราน่าจะแบ่งกลุ่มผู้คนทั่วโลก ที่มีความเห็นความคิดในเรื่องนี้อยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
กลุ่มแรก มีจำนวนมากที่สุด อาจจะมากเกิน 95% คือ ไม่เชื่อสักนิดเลยว่า
จะมีภัยพิบัติร้าย ๆ ต่าง ๆ อย่างที่พูดกันเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นสนามแม่เหล็กโลก
พลิกสลับขั้วกลับด้านถึงขั้นน้ำทะเลที่มีอยู่ไหลท่วมพื้นแผ่นดินของโลกส่วนมาก
หรือจะเกิดแผ่นดินไหวระดับ 8-9 ริกเตอร์ จากภูเขาไฟระเบิด
ล้วนที่ก่อให้เกิดความหายนะทุกรูปแบบ ในระดับทำลายล้างเผ่าพันธ์มนุษย์
ให้เหลือประชากรโลกเพียงเศษหนึ่งในสามส่วนของที่มีอยู่ในปัจจุบัน
กลุ่มที่สอง เป็นประเภท "ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่" ขอแทงกั๊กเอาไว้ก่อนว่า
อาจเป็นไปได้ที่โอกาสของภัยพิบัติเลวร้ายเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ตามแบบที่ผู้กำกับหนังฮอลลี่วู๊ด
สร้างให้พวกเราดูในภาพยนตร์บันเทิง แต่ผู้คนกลุมนี้ยังไม่ได้ทำอะไร นอกจากรอคอยการมา
ถึงของเหตุการณ์ในวันที่ 21 ธันวาคม หรือไม่ก็วันเดือนปี ต่อ ๆ ไป ถ้ามันบังเอิญจะซวย
เกิดขึ้นมาจริง ๆ ถึงเวลานั้นค่อยมาว่ากันว่า จะหาทางหนีเอาตัวรอดแบบตัวใครตัวมันกันอย่างไร
กลุ่มสุดท้าย มีจำนวนน้อยถึงน้อยที่สุด น้อยจนไม่อาจระบุเป็นเปอร์เซนต์ได้
คือ มีความเชื่อเต็มที่พันเปอร์เซนต์ พวกเค้าเหล่านี้จึงได้มีการเตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์
อันสุดเลวร้ายเอาไว้ล่วงหน้า อย่างเช่น ที่ประเทศจีน มีช่างทำเฟอร์นิเจอร์ ได้สร้างลูกทรงกลม
ทำจากแผ่นเหล็ก ใช้เป็นเรือพาหนะส่วนตัวในทะเลพร้อมอาหารและน้ำดื่มไว้สำหรับตัวเอง
กับครอบครัว และใช้อยู่พักอาศัยตอนน้ำท่วมโลก พอสร้างของตัวเองเสร็จ เหลือเวลาก็เลยสร้าง
เพิ่มขึ้นมาอีกหลายลูก เอาไว้ขายให้เพื่อนบ้านข้างเคียงในตำบล หรือคนอื่นๆ
ที่เชื่อในเรื่องนี้เหมือนกันโดยประกาศขายทางอินเตอร์เน็ท นับเป็นธุรกิจหารายได้เสริม
ที่ไม่เลวนัก ระหว่างนั่งรอเหตุการณ์วันจริงจะมาถึง แต่ถ้ามันเกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ้นจริง ๆ
เค้าคงจะลืมนึกไปว่า เงินทองเองก็ไม่มีค่าใดๆ อีกต่อไป
เพราะมันก็จะถึงวันนั้นอยู่แล้ว ขอให้พวกเราคอยมาดูกันว่า เช้าของวันที่ 21 ธันวาคม
จะออกมาเป็นอย่างไร
ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกที่เชื่อก็จะต้องสรรหาเหตุผลมาอธิบายว่า
ทำไมมันถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือจำเป็นต้องเลื่อนวันโลกาวินาศออกไป
ให้ลุ้นอีกเรื่อย ๆ ในปีหน้า 2013 หรือ 2014 หรือไม่
กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง วันโลกแตก หรือวันหน้าแหก
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000151452
รอลุ้นระทึก วัน 21.12.2012
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000152037
The Official Website for 21.12.2012
http://www.december212012.com/
สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อเรื่อง วันโลกแตก
http://www.endoftheworld2012.net/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)